BlackMores Fish Oil 1000 บรรจุ 80 เม็ด
แบลคมอร์ส น้ำมันปลา 1000 มิลลิกรัม
สารประกอบสำคัญของน้ำมันปลา
น้ำมันปลา เป็นสารประกอบของกรดไขมัน ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ซึ่งอยู่ในกลุ่มของโอเมก้า-3 มี 2 ชนิด ได้แก่
1. EPA (Eicosapentaenoic Acid)
มีคุณสมบัติในการลดไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด พร้อมทั้งป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด และยังป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคสมองขาดเลือด และโรคที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
2. DHA (Docosahexaenoic Acid)
เป็นส่วนประกอบสำคัญของสมองและดวงตา ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง การเรียนรู้ ความจำ ตลอดจนระบบสายตา ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของน้ำมันปลา
ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดและสมอง ขาดเลือดชั่วคราว
การรับประทานน้ำมันปลา จะช่วยยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและช่วยลดไขมันในเลือด จึงป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจและสมอง โดยมีผลการวิจัยทางการแพทย์พบว่า กลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจที่รับประทานน้ำมันปลาวันละ 3 กรัม ร่วมกับวิตามินอีธรรมชาติ 200-400 ยูนิต สามารถลดอัตราการตายเนื่องจากหัวใจล้มเหลวลง 15% เมื่อ เทียบกับผู้ป่วยที่ไม่ได้รับประทานน้ำมันปลา
ป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน
กรดไขมันไม่อิ่มตัวในน้ำมันปลา เป็นสารตั้งต้นของสารกลุ่มไอโคซานอยด์ (Eicosanoids) อันได้แก่ พรอสตาแกลนดิน-3 (Prostaglandins-3) และทรอมบอกแซน-3 (Thromboxan-3) ซึ่ง สารกลุ่มนี้จะยับยั้ง การเกาะตัวของเกล็ดเลือด จึงช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด และช่วยให้หลอดเลือดขยายตัวทำให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น
ช่วยลดไขมันในเลือดกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 จะช่วยยับยั้ง การสร้างไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) และ ไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำมาก (VLDL) นอกจากนี้ ยังเพิ่ม HDL ซึ่งเป็นไลโปโปรตีนที่นำโคเรสเตอรอลไป ทำลายที่ตับ จึงช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
ลดความดันโลหิตสูง
การรับประทานน้ำมันปลาช่วยทำให้หลอดเลือดขยายตัว และป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น จึงมีผลให้ความดันเลือดลดลง
ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อรูมาตอยด์และข้อเสื่อมกรดไขมันในน้ำมันปลา ช่วยลดการสร้างสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ (สารกลุ่มลิวโคไตรลิน) ช่วยบรรเทาอาการปวด บวม อักเสบตามข้อและยังช่วยลดปริมาณการใช้ยาแก้ปวดข้อ (NSAID) ลงได้
ข้อควรทราบของน้ำมันปลา
- กรดไขมัน EPA และ DHA ในปลาน้ำจืดมีน้อยกว่าปลาทะเล
- การกินปลาทะเล 200-300 กรัม ต่อวัน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะสามารถเพิ่มกรดไขมันโอเมก้า-3 ในอาหารได้ถึง 0.2 - 0.5 กรัมต่อวัน
- น้ำมันปลาต่าง จากน้ำมันตับปลา
โดยทั่วไป น้ำมัน ปลาให้วิตามิน A , D เหมาะสมต่อร่างกาย แต่การรับประทานน้ำมัน ตับปลาเพียง 20 CC จะได้รับวิตามิน A , D มากเกินความต้องการถึง 4 เท่า
- น้ำมันปลา 1 กรัม ให้พลังงาน 9 กิโลแค ลอรี่
น้ำมันปลา เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีความ เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ซึ่งได้แก่
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่สูบบุหรี่ จัด
- ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารประเภทที่มีไขมัน สูง
- ผู้ที่ทำงานนั่งโต๊ะประจำ และขาดการออกกำลังกาย
- ผู้ที่มีภาวะ ไขมันในเลือดสูง โดยเฉพาะไตรกลีเซอร์ไรด์
- ผู้ที่มีประวัติ คนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ หรือ โรคหลอดเลือดอุดตัน
- ผู้ป่วยที่เป็น ความดันโลหิตสูง
ขนาดรับประทาน
สำหรับ บุคคลทั่วไปทาน 1,000 มก./วันเพื่อป้องกันไขมันในเลือดสูง และสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ หลอดเลือด หรือผู้ที่ต้องการลดระดับไขมันในเลือด ลดความดันโลหิต ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ หรือผู้ที่มีปัญหาไขข้ออักเสบ ควรทาน 2,000-3,000 มก. ต่อวัน
ข้อควรระวัง
ผู้ที่แพ้ปลาทะเลและผู้ที่กำลังได้รับยาต้านการแงตัวของเกล็ดเลือดหรือแอสไพรินไม่ ควรทานน้ำมันปลา
ส่วนประกอบ ใน 1 แคปซูล.(1000มก.)
Omega-3 Marine trglycerides 300mg as :
EPA (Eicosapentaenoic acid) 180mg
DHA (Docosahexaenoic acid) 120mg
วิธีใช้-รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1-3 ครั้ง พร้อมอาหารเป็นประจำทุกวัน
ข้อควรระวัง :ไม่แนะนำให้รับประทานร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด และผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัด
เลขที่รับแจ้ง 10-3-08338-1-0005